อาการ หูติดเชื้อในเด็กเล็ก
อัพเดทล่าสุด: 22 ส.ค. 2025
168 ผู้เข้าชม
หูติดเชื้อในเด็กเล็ก
ภาวะหูติดเชื้อในเด็กเล็ก หรือที่เรียกว่า "หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน" (Acute Otitis Media) เป็นโรคที่พบบ่อยมากในเด็ก โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี เนื่องจากโครงสร้างทางกายวิภาคของเด็กยังไม่สมบูรณ์ และระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่
สาเหตุ
ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส ซึ่งมักจะตามหลังจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น เป็นหวัด, ไซนัสอักเสบ หรือต่อมอะดีนอยด์โต หรืออาการผิดปกติของหูจากท่อยูสเตเชี่ยนทำงานผิดปกติ เนื่องจากท่อนี้ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างหูชั้นกลางกับโพรงจมูก เพื่อปรับความดันอากาศ ในเด็กเล็กท่อนี้จะสั้นและอยู่ในแนวราบมากกว่าผู้ใหญ่ ทำให้เชื้อโรคจากจมูกหรือคอเข้าสู่หูชั้นกลางได้ง่าย หรือเกิดการสำลักจากการดูดนมในท่านอนราบ ก็อาจทำให้สำลักนมเข้าสู่ท่อยูสเตเชียนและเกิดการติดเชื้อได้
อาการ
เนื่องจากเด็กเล็กยังไม่สามารถบอกอาการได้ ผู้ปกครองจึงต้องสังเกตพฤติกรรมของลูกอย่างใกล้ชิด
เมื่อสงสัยว่าลูกมีอาการหูติดเชื้อ ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องแพทย์อาจให้ยาบรรเทาอาการอื่น ๆ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวด และยาหยอดหูตามความจำเป็น หรือยาปฏิชีวนะ หมั่นทำความสะอาดหู หากมีหนองไหล แพทย์จะดูดหนองออกเพื่อช่วยระบายเชื้อโรค ในบางกรณีที่มีน้ำขังในหูชั้นกลางเป็นเวลานาน หรือมีการติดเชื้อซ้ำซ้อนบ่อยครั้ง แพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัดเล็ก ๆ เพื่อระบายของเหลวออกจากหู
ข้อควรระวัง
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษากุมารแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงทีนะคะ
ภาวะหูติดเชื้อในเด็กเล็ก หรือที่เรียกว่า "หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน" (Acute Otitis Media) เป็นโรคที่พบบ่อยมากในเด็ก โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี เนื่องจากโครงสร้างทางกายวิภาคของเด็กยังไม่สมบูรณ์ และระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่
สาเหตุ
ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส ซึ่งมักจะตามหลังจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น เป็นหวัด, ไซนัสอักเสบ หรือต่อมอะดีนอยด์โต หรืออาการผิดปกติของหูจากท่อยูสเตเชี่ยนทำงานผิดปกติ เนื่องจากท่อนี้ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างหูชั้นกลางกับโพรงจมูก เพื่อปรับความดันอากาศ ในเด็กเล็กท่อนี้จะสั้นและอยู่ในแนวราบมากกว่าผู้ใหญ่ ทำให้เชื้อโรคจากจมูกหรือคอเข้าสู่หูชั้นกลางได้ง่าย หรือเกิดการสำลักจากการดูดนมในท่านอนราบ ก็อาจทำให้สำลักนมเข้าสู่ท่อยูสเตเชียนและเกิดการติดเชื้อได้
อาการ
เนื่องจากเด็กเล็กยังไม่สามารถบอกอาการได้ ผู้ปกครองจึงต้องสังเกตพฤติกรรมของลูกอย่างใกล้ชิด
- มักมีไข้นำมาก่อน
- เด็กที่ยังพูดไม่ได้อาจแสดงอาการหงุดหงิด โยเย ร้องไห้ผิดปกติ หรือดึงหู เนื่องจากปวดหู ทุบหูข้างที่ปวด โดยเฉพาะเวลากลางคืน
- งอแงและไม่ยอมดูดนม และอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- มีน้ำไหลออกจากหู หากแก้วหูทะลุ อาจมีหนองหรือน้ำปนเลือดไหลออกมา
- การได้ยินลดลง เด็กอาจไม่ตอบสนองต่อเสียง หรือหูอื้อ
- อาการอื่น ๆ เช่น อาการร่วมกับหวัด ไซนัสอักเสบ เช่น น้ำมูกไหล ไอ จาม เป็นต้น
เมื่อสงสัยว่าลูกมีอาการหูติดเชื้อ ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องแพทย์อาจให้ยาบรรเทาอาการอื่น ๆ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวด และยาหยอดหูตามความจำเป็น หรือยาปฏิชีวนะ หมั่นทำความสะอาดหู หากมีหนองไหล แพทย์จะดูดหนองออกเพื่อช่วยระบายเชื้อโรค ในบางกรณีที่มีน้ำขังในหูชั้นกลางเป็นเวลานาน หรือมีการติดเชื้อซ้ำซ้อนบ่อยครั้ง แพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัดเล็ก ๆ เพื่อระบายของเหลวออกจากหู
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรซื้อยาหยอดหูหรือยาปฏิชีวนะให้ลูกเอง โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
- ควรดูแลให้เด็กได้รับยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และพาไปพบแพทย์ตามนัดหมาย
- ไม่ควรให้เด็กว่ายน้ำ จนกว่าอาการจะหายสนิท
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษากุมารแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงทีนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
อีก 1 ปัญหาที่คุณแม่หลังคลอดมักประสบพบเจอบ่อยๆ ก็คือ "ปัญหาหัวนมหลังคลอด" ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการให้นมบุตร และอาจทำให้คุณแม่ท้อใจกับการให้นมได้
อาการเจ็บป่วยร้ายแรงในเด็กเล็กวัย 0-3 ปีเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ร่างกายและระบบภูมิคุ้มกันกำลังพัฒนา จึงมีโอกาสติดเชื้อและเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย การเรียนรู้และสังเกตอาการเหล่านี้จะช่วยให้สามารถพาเด็กไปพบแพทย์ได้ทันท่วงทีและลดความเสี่ยงต่ออันตรายได้
นับว่าเป็นความท้าทายของคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่เลยก็ว่าได้ เด็กเล็กๆ ใครๆ ก็อยากแสดงความรักและความเอ็นดู โดยเฉพาะญาติๆ และคนในครอบครัว แต่รู้หรือไม่ว่า การปล่อยให้คนอื่นๆ กอด-หอมลูกน้อย โดยเฉพาะทารกที่ยังมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงพอ อาจทำให้เสี่ยงติดเชื้อร้ายแรงได้